ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไปในที่ไหน ? เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในที่ไหน ?
ภิกษุุ ท.! สิ่งใด มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้นๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ,
ภิกษุ ท.! สิ่งใดเล่า มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ?
ภิกษุ ท.! ตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, หู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, จมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, กาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
ภิกษุ ท.! รูป ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เสียง ทั้งหลายมีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, กลิ่น ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, รส ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, โผฏฐัพพะ ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ธรรมารมณ์ ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ.
ภิกษุ ท.! วิญญาณทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณ ทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณ ทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณ ทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณ ทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณ ทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
ภิกษุ ท.! สัมผัสทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัส ทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก} สัมผัสทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัส ทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัส ทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
ภิกษุ ท.! เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัส ทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัส ทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัส ทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัส ทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัส ทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
ภิกษุ ท.! ความหมายรู้ในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ ในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ ในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ ในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ,
ภิกษุ ท.! ความคิดนึกในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึก ในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึก ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึก ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึก ในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
ภิกษุ ท.! ตัณหาในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหา ในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหา ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหา ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหา ในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ.
ภิกษุ ท.! ความตริตรึกในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึก ในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึก ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึก ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึก ในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึก ในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้นๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้นๆ.
ภิกษุ ท.! ความตริตรองในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรอง ในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรอง ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรอง ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรอง ในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรอง ในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ,
- มหา. ที. 10/346/298.