ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.!สมณะหรือพราหมณก็ตาม เหลาใดเหลาหนึ่ง ยอมไมรูชัดตามเปนจริงวา "นี้ความทุกข, นี้ เหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข, นี้ ความดับไมเหลือแหงทุกข, นี้ทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข" ดังนี้; ภิกษุ ท.! สมณะหรือพราหมณเหลานั้น มิใชผูที่ควรไดรับการมสมมติวาเปนสมณะในหมูสมณะ มิใชผูที่ควรไดรับการสมมติวาเปนพราหมณในหมูพราหมณ. อีกอยางหนึ่ง บุคคลผูไมรูเหลานั้น จะไดทําใหแจงซึ่งประโยชนแหงความเปนสมณะหรือประโยชนแหงความเปนพราหมณ ดวยปญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้เขาถึงแลวแลอยู หาไดไม่
ภิกษุ ท.! สวนสมณะหรือพราหมณก็ตาม เหลาใดเหลาหนึ่ง ยอมรูชัดตามเปนจริงวา "นี้ความทุกข, นี้เหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข, นี้ความดับไมเหลือแหงทุกข, นี้ ทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข" ดังนี้; ภิกษุ ท.! สมณะหรือพรามณเหลานั้นแล ยอมเปนผูควรไดรับการสมมติวาเปนสมณะในหมูสมณะ ยอมเปนผูควรไดรับการสมมติวาเปนพราหมณในหมูพราหมณ. อีก อยางหนึ่ง บุคคลผูรูชัดตามความเปนจริงเหลานั้น ยอมทําใหแจงซึ่งประโยชนแหงความเปนสมณะ หรือประโยชนแหงความเปนพราหมณดวยปญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เขาถึงแลวแลอยู ไดโดยแท.
(พระผูมีพระภาค ไดตรัสไวยากรณภาษิตนี้แลว พระองคผูสุคตศาสดา ไดตรัสคําประพันธตอไปอีกวา :-)
"ชนเหลาใด ไมรูทั่วถึงซึ่งทุกข และเหตุเกิดแหงทุกขและธรรมเปนที่ดับแหงทุกขทั้งปวงโดยไมเหลือ และหนทางเปนที่ถึงซึ่ง ความเขาไปสงบแหงทุกข; ชนเหลานั้น พลาดแลวจากเจโตวิมุตติและปญญาวิมุตติ ไมสมควรที่จะกระทําที่สุดแหงทุกข มีแตจะเขาถึงซึ่งชาติและชรา.
สวนชนเหลาใด รูทั่วถึงซึ่งทุกข และเหตุเกิดแหงทุกขและธรรมเปนที่ดับแหงทุกขทั้งปวงโดยไมเหลือ และหนทางเปนที่ถึงซึ่งความเขาไปสงบแหงทุกข; ชนเหลานั้น ถึงพรอมแลวดวยเจโตวิมุตติและปญญาวิมุตติ สมควรที่จะกระทําที่สุดแหงทุกข ไมเขาถึงซึ่งชาติและชรา".
- มหาวาร.สํ. 19/542/1700-1702
ภิกษุ ท.! (เครื่องทํา) ความเปนสมณะ เปนอยาไรเลา ? อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นเอง, ไดแก สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ : นี้เรียกวา (เครื่องทํา) ความเปนสมณะ.
ภิกษุ ท.! ประโยชนแหงความเปนสมณะ เปนอยางไรเลา? ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแหงราคะ ความสิ้นไปแหงโทสะ ความสิ้นไปแหงโมหะ : นี้เรียกวา ประโยชนแหงความเปนสมณะ.
- มหาวาร. สํ. 19/30/102-104.
(สําหรับ เครื่องทําความเปนพราหมณ และ ประโยชนแหงความเปนพราหมณ ก็ตรัสไวดวยขอความเหมือนกันกับในกรณีแหงเครื่องทําความเปนสมณะและประโยชนแหงความเปนสมณะนั้นทุกประการ.- 19/31/108-110.)