ไปยังหน้า : |
"….ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา โลกเที่ยง นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ พระเจาขา ?"
โปฏฐปาทะ ! ขอที่วา "โลกเที่ยง นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่ เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา โลกไมเที่ยง นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ ?”
โปฏฐปาทะ! ขอที่วา "โลกไมเที่ยง นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่ เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา โลกมีที่สิ้นสุด นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ ?
โปฎฐปาทะ! ขอที่วา "โลกมีที่สิ้นสุด นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ! สัจจะที่วา โลกไมมีที่สิ้นสุด นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ?"
โปฏฐปาทะ! ขอที่วา "โลกไมมีที่สิ้นสุด นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้นเปนขอที่ เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ ?"
โปฏฐปาทะ ! ขอที่วา "ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ ?”
โปฏฐปาทะ ! ขอที่วา "ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น นี้เทานั้นเปนคําจริงคําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่ เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีก นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ?"
โปฏฐปาทะ! ขอที่วา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีก นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่ เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมไมมีอีกนี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ?"
โปฏฐปาทะ! ขอที่วา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมไมมีอีก นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่ เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีกก็มีไมมีอีกก็มี นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ ?"
โปฏฐปาทะ ! ขอที่วา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีกก็มีไมมีอีกก็มี นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่ เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! สัจจะที่วา ตถาคตภายหลังแกตาย แลวยอมมีอีกก็หามิได ไมมีอีกก็หามิได นี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ ดังนั้นหรือ ?"
โปฏฐปาทะ ! ขอที่วา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีกก็หามิไดไมมีอีกก็หามิไดนี้เทานั้นเปนคําจริง คําอื่นเปนโมฆะ" ดังนี้นั้น เปนขอที่ เราไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! เพราะเหตุอะไรเลา ขอนั้น ๆ จึงเปนสิ่งที่ไมทรงพยากรณ?
โปฏฐปาทะ ! เพราะเหตุวา นั่นไมประกอบดวยอรรถะ ไมประกอบดวยธรรมะ ไมเปนเบื้องตนของพรหมจรรย ไมเปนไปพรอมเพื่อความหนายความคลายกําหนัด ความดับ ความระงับ ความรูยิ่ง ความรูพรอม และนิพพาน, เหตุนั้นเราจึงไมพยากรณ.
"ขาแตพระองคผูเจริญ! เพราะเหตุอะไรเลา เปนสิ่งที่พระองคทรงพยากรณ ?"
โปฏฐปาทะ ! ขอที่เราพยากรณนั้นคือ นี้ทุกข, นี้เหตุใหเกิดทุกข, นี้ความดับไมเหลือแหงทุกข, นี้ทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข, ดังนี้
"ขาแตพระองคผูเจริญ! เพราะเหตุอะไรเลา จึงทรงพยากรณ?"
โปฎฐปาทะ! เพราะเหตุวา นั่นประกอบดวยอรรถะ ประกอบดวยธรรมะ เปนเบื้องตนของพรหมจรรย เปนไปพรอมเพื่อความหนาย ความคลายกําหนัดความดับ ความระงับ ความรูยิ่ง ความรูพรอม และนิพพาน, เหตุนั้นเราจึงพยากรณ.
- สี. ที. 9/232-233/292-293.