ไปยังหน้า : |
“ข้าแต่แม่เจ้า ! อริยอัฏฐังคิกมรรค เป็นอย่างไรเล่า ?”
“อาวุโสวิสาขะ ! อริยอัฏฐังคิกมรรค ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.”
“ข้าแต่แม่เจ้า ! อริยอัฏฐังคิกมรรค เป็นสังขตธรรม หรืออสังขตธรรม ?”
“อาวุโสวิสาขะ ! อริยอัฏฐังคิกมรรค เป็นสังขตธรรม.”
“ข้าแต่แม่เจ้า ! ขันธ์ทั้ง 3 (ศีล - สมาธิ - ปัญญาขันธ์) สงเคราะห์ด้วยอริยอัฏฐังคิกมรรคหรือ, หรือว่าอริยอัฏฐังคิกมรรค สงเคราะห์ด้วยขันธ์ 3 ?”
“อาวุโสวิสาขะ ! ขันธ์ทั้ง 3 ไม่ได้สงเคราะห์ในอริยอัฏฐังคิกมรรค ; แต่ อริยอัฏฐังคิกมรรค ต่างหาก สงเคราะห์ในขันธ์ทั้ง 3, คือสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ 3 อย่างนี้ สงเคราะห์ใน ศีลขันธ์ ; สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ 3 อย่างนี้ สงเคราะห์ใน สมาธิขันธ์ ; สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ 2 อย่างนี้ สงเคราะห์ใน ปัญญาขันธ์. …. ฯลฯ …. .”
- มู. ม. 12/549, 555/508,513.
(ข้อความข้างบนนี้ เป็นคำของธัมมทินนาเถรี กล่าวตอบแก่วิสาขอุบาสก ครั้นอุบาสกนำข้อความนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า “วิสาขะ ! ธัมมทินนาภิกษุณีเป็นบัณฑิต มีปัญญามาก ; ถ้าเธอถามข้อความนั้นกะเรา เราก็จะพยากรณ์กะเธอเช่นเดียวกับที่ธัมมทินนาภิกษุณีพยากรณ์แล้วแก่เธอ เธอจงทรงจำเนื้อความนั้นไว้.” ดังนั้นเป็นอันว่า ข้อความของธรรมทินนาเถรีมีค่าเท่ากับพระพุทธภาษิต จึงนำมาใส่ไว้ในหนังสือนี้ ในลักษณะเช่นนี้).