ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! ในกาลยืดยาวนานฝายอดีต, กุลบุตรเหลาใด ออกจากเรือนบวชแลว เปนผูไมเกี่ยวของดวยเรือน ไดรูพรอมยิ่งแลวตามเปนจริง, กุลบุตรทั้งหมดนั้น ไดรูพรอมยิ่งแลว ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อยาง. ในกาลยืดยาวนานฝายอนาคต, กุลบุตรเหลาใด จักออกจากเรือนบวช เปนผูไมเกี่ยวของดวยเรือน จักรูพรอมยิ่งตามเปนจริง, กุลบุตรทั้งหมดนั้น ก็จักรูพรอมยิ่งแลว ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อยาง. และในกาลเปนปจจุบันนี้, กุลบุตรเหลาใด ออกจากเรือนบวชอยู เปนผูไมเกี่ยวของดวยเรือน รูพรอมยิ่งอยูตามเปนจริง, กุลบุตรทั้งหมดนั้น ก็รูพรอมยิ่งอยู ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อยาง. ความจริงอันประเสริฐสี่อยางนั้น เหลาไหนเลา ? สี่อยางคือความจริงอันประเสริฐ คือทุกข, เหตุใหเกิดทุกข, ความดับไมเหลือของทุกข, และทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือของทุกข.
ภิกษุ ท.! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึง ทําความเพียรเพื่อใหรูตามเปนจริง วา "นี้เปนทุกข, นี้เปนเหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข, นี้เปนความดับไมเหลือแหงทุกข, นี้เปนทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข," ดังนี้เถิด.
- มหาวาร. สํ. 19/521/1657.