ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ เดินอยู่ ถ้าเกิดมีกามวิตก หรือ พ๎ยาปาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ขึ้นมา และภิกษุนั้นก็ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้ แต่สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ. ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้เดินอยู่ ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัว (ต่อสิ่งลามก) เป็นผู้ปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลส อยู่เนืองนิจ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ ยืนอยู่ ถ้าเกิดมีกามวิตก หรือพ๎ยาปาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ขึ้นมา และภิกษุนั้นก็ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้ แต่สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ. ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้ยืนอยู่ ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัว (ต่อสิ่งลามก) เป็นผู้ปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลส อยู่เนืองนิจ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ นั่งอยู่ ถ้าเกิดมีกามวิตก หรือ พ๎ยาปาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ขึ้นมา และภิกษุนั้นก็ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้ แต่สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ. ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้นั่งอยู่ ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัว (ต่อสิ่งลามก) เป็นผู้ปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลส อยู่เนืองนิจ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ นอนตื่นอยู่ ถ้าเกิดมีกามวิตก หรือ พ๎ยาปาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ขึ้นมา และภิกษุนั้นก็ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้ แต่สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ. ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้นอนตื่นอยู่ ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัว (ต่อสิ่งลามก) เป็นผู้ปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลส อยู่เนืองนิจ.
- จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๗/๑๑.