ไปยังหน้า : |
พุทธสาวก เปนผูมีจิตตั้งมั่น มีสติ มีสัมปชัญญะยอมรูชัดซึ่งเวทนา ซึ่งแดนเกิดแหงเวทนา ซึ่งธรรมเปนที่ดับแหงเวทนาซึ่งหนทางใหถึงความสิ้นไป (แหงฉันทราคะในเวทนา), ภิกษุ เพราะสิ้น (ฉันทราคะ) แหงเวทนาทั้งหลาย เปนผูหายหิว ดับเย็นสนิท
เวทนาอยางใดอยางหนึ่ง มีอยู เปนสุขก็ตาม เปนทุกขก็ตามเปนอทุกขมสุขก็ตาม เปนภายในก็ตาม ภายนอกก็ตามบุคคลรูวาสิ่งเหลานี้เปนทุกข มีความหลอกลวงเปนธรรมดา มีการแตกสลายเปนธรรมดาเสวยแลว เสวยแลว เห็นอยูวาเปนสิ่งที่มีความสิ้นไปเปนธรรมดา : ดังนี้ยอมปราศจากความกําหนัดในเวทนานั้น ๆ.
เมื่อบุคคลเสวยสุขเวทนาอยู, ไมรูจักชัดซึ่งเวทนานั้น ราคานุสัยยอมมีแกเขาผูมองไมเห็นทางออกจากอํานาจของเวทนานั้น. เมื่อบุคคล เสวยทุกขเวทนาอยู ไมรูจัดชัดซึ่งเวทนานั้น ปฏิฆานุสัยยอมมีแกเขา ผูมองไมเห็นทางออกจากอํานาของเวทนานั้น. บุคคลเพลิดเพลิน แมในอทุกขมสุข อันพระภูริปญญาพุทธเจาทรงแสดงวาเปนธรรมอันรํางับ ก็หาพนจากทุกขไปไดไม.
เมื่อใดภิกษุมีความเพียรเผากิเลส ไมทอดทิ้งสัมปชัญญะ ก็เปนบัณฑิตรอบรูเวทนาทั้งปวง ภิกษุ นั้น เพราะรอบรูซึ่งเวทนา จึงเปนผูไมมีอาสวะในทิฐิธรรม เปนผูตั้งอยูในธรรมจนกระทั่งกายแตก จบเวทไมเขาถึงซึ่งการนับวาเปนอะไร.
บุคคลใด ถูกทุกขเวทนาอันเกิดขึ้นแลวในสรีระปานวาจะนําเสียซึ่งชีวิต อดกลั้นไมได ยอมหวั่นไหว ยอมคร่ำครวญร่ำไห ทุพพลภาพ หมดกลัง; บุคคลนั้น จมลงแลวในบาดาล (แหงเวทนา) ซึ่งไมมีที่ยืนเหยียบถึง.
สวนบุคคลใด ถูกทุกขเวทนาอันเกิดขึ้นแลวในสรีระปานวาจะนําเสียซึ่งชีวิต ยอมอดกลั้นได ไมหวั่นไหว; บุคคลนั้น ไมจมลงแลวในบาดาล เพราะมีที่ยืนเหยียบถึง
ผูใด เห็นสุขโดยความเปนทุกข เห็นทุกขโดยความเปนลูกศรเห็นอทุกขมสุขอันกําลังมีอยู โดยความเปนของไมเที่ยง; ผูนั้นเปนภิกษุ ผูรูเห็นโดยชอบ ยอมรอบรูซึ่งเวทนา เพราะรอบรูเวทนาจึงเปนผู้ไมมีอาสวะในทิฎฐิธรรม เปนผูตั้งอยูในธรรมจนกระทั่งกายแตก จบเวทไมเขาถึงซึ่งการนับวาเปนอะไร,
- สฬา. สํ. 18/254-257/360, สฬา. สํ. 18/254-257/362, สฬา. สํ. 18/254-257/364, สฬา. สํ. 18/254-257/366, สฬา. สํ. 18/254-257/368.