ไปยังหน้า : |
ภารทวาชะ ! ไดยินวา ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไดเขาไปอาศัยอยูในบานหรือในนิคมแหงใดแหงหนึ่ง. คหบดีหรือคหบดีบุตร ไดเขาไปใกลภิกษุนั้นแลวใครครวญดูอยูในใจเกี่ยวกับธรรม ๓ ประการ คือธรรมเปนที่ตั้งแหงโลภะ ธรรมเปนที่ตั้งแหงโทสะ ธรรมเปนที่ตั้งแหงโมหะ ทั้งหลาย (โดยนัยเปนตนวา) "ทานผูมีอายุผูนี้ จะมีธรรมอันเปนที่ตั้งแหงโลภะหรือไมหนอ อันเปนธรรมที่เมื่อครอบงําจิตของทานแลว จะทําใหทานเปนุบคคลที่เมื่อไมรูก็กลาวรู เมื่อไมเห็นก็กลาววาเห็น หรือวาจะชักชวนผูอื่นในธรรมอันเปนไปเพื่อความทุกข ไมเปนประโยชนเกื้อกูล แกสัตวทั้งหลายเหลาอื่นตลอดกาลนาน" ดังนี้; เมื่อเขาใครครวญดูอยูในใจซึ่งภิกษุนั้น ก็รูวา "ธรรมเปนที่ตั้งแหงโลภะชนิดนั้น มิไดมีแกทานผูมีอายุนี้, อนึ่ง กายสมาจาร วจีสมาจาร ของทานผูมีอายุผูนี้ ก็เปนไปในลักษณะแหงสมาจารของบุคคลผูไมโลภแลว. อนึ่ง ทานผูมีอายุนี้ แสดงซึ่งธรรมใด ธรรมนั้นเปนธรรมที่ลึก เห็นไดยาก รูตามไดยาก เปนธรรมที่รํางับ ประณีตไมเปนวิสัยที่จะหยั่งลงงายแหงความตรึก เปนธรรมละเอียดออน รูไดเฉพาะบัณฑิตวิสัย, ธรรมนั้น มิใชธรรมที่คนผูมีความโลภจะแสดงใหถูกตองได" ดังนี้.เมื่อเขาใครครวญดูอยู ซึ่งภิกษุนั้น ยอมเล็งเห็นวา เปนผูบริสุทธิ์จากธรรมอันเปนที่ตั้งแหงโลภะ ตอแตนั้น เขาจะพิจารณาใครครวญภิกษุนั้นใหยิ่งขึ้นไปในธรรมทั้งหลายอันเปนที่ตั้งแหงโทสะ….ในธรรมทั้งหลายอันเปนที่ตั้งแหงโมหะ…. (ก็ไดเห็นประจักษในลักษณะอยางเดียวกันกับในกรณีแหงโลภะ ตรงเปนอันเดียวกันทุกตัวอักษรไปจนถึงคําวา "เมื่อเขาใครครวญดูอยูซึ่งภิกษุนั้น ยอมเล็งเห็นวาเปนผูบริสุทธิ์จากธรรมอันเปนที่ตั้งแหงโมหะ".)
ลําดับนั้น เขา (๑) ปลูกฝง ศรัทธา ลงไป ในภิกษุนั้น ครั้นมีสัทธาเกิดแลว (๒) ยอม เขาไปหา ครั้นเขาไปหาแลว (๓) ยอม เขาไปนั่งใกล ครั้นเขาไปนั่งใกลแลว (๔) ยอม เงี่ยโสตลง ครั้นเงี่ยโสตลง (๕) ยอม ฟงซึ่งธรรม ครั้นฟงซึ่งธรรมแลว (๖) ยอม ทรงไวซึ่งธรรม (๗) ยอม ใครครวญซึ่งเนื้อความแหงธรรมทั้งหลาย อันตนทรงไวแลว เมื่อใครครวญซึ่งเนื้อความแหงธรรมอยู (๘) ธรรมทั้งหลายยอมทนตอความเพงพินิจ, เมื่อการทนตอการเพงพินิจของธรรมมีอยู (๙) ฉันทะยอมเกิดขึ้น ผูมีฉันทะเกิดขึ้นแลว (๑๐) ยอม มีอุสสาหะ ครั้นมีอุสสาหะแลว (๑๑) ยอม พิจารณาหาความสมดุลยแหงธรรม ครั้นมีความสมดุลยแหงธรรมแลว (๑๒) ยอม ตั้งตนไวในธรรมนั้น; เขาผูมีตนสงไปแลวอยางนี้อยู ยอมกระทําใหแจงซึ่งปรมัตถสัจจะ ดวยนามกาย ดวย, ยอม แทงตลอดซึ่งธรรมนั้น แลวเห็นอยูดวยปญญา ดวย. ภารทวาชะ ! การตามรูซึ่งความจริง ยอมมี ดวยการกระทําเพียงเทานี้, บุคคลชื่อวายอมตามรูซึ่งความจริงดวยการกระทําเพียงเทานี้, และเราบัญญัติการตามรูซึ่งความจริง ดวยการกระทําเพียงเทานี้; แตวา นั่นยังไมเปนการตามบรรลุถึงซึ่งความจริง กอน.
"ขาแตพระโคดมผูเจริญ ! การตามรูซึ่งความจริง ยอมมีดวยการกระทําเพียงเทานี้. บุคคลเชื่อวายอมตามรูซึ่งความจริง ดวยการกระทําเพียงเทานี้. อนึ่ง ขาพเจาก็มุงหวังซึ่งการตามรูซึ่งความจริง ดวยการกระทําเพียงเทานี้. ขาแตพระโคดมผูเจริญ ! การตามบรรลุถึงซึ่งความจริง (สจฺจานุปตฺติ) มีไดดวยการกระทําเพียงเทาไร ? บุคคลชื่อวายอมตามบรรลุถึงซึ่งความจริง ดวยการกระทําเพียงเทาไร ? ขาพเจาขอถามพระโคดมผูเจริญถึงการตามบรรลุถึงซึ่งความจริง."
(ตอไปนี้ พระผูมีพระภาคเจา ไดตรัสวิธี การตามบรรลุถึงซึ่งความจริง ดวยการประพฤติกระทําใหมากซึ่งธรรมทั้งหลาย ๑๒ ประการ ดังที่กลาวแลวใน ขอ ค.จนกระทั่งบรรลุถึงซึ่งความจริง :-)