ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! การก่อขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัยตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น, การประจวบพร้อม (แห่งตา+รูป+จักขุวิญญาณ) ทั้ง 3 อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ, เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา, เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัยหูด้วย เสียงด้วย จึงเกิดโสตวิญญาณขึ้น. การประจวบพร้อม (แห่งหู+เสียง+โสตวิญญาณ ) ทั้ง 3 อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ, เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา, เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์.
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัยจมูกด้วย กลิ่นด้วย จึงเกิดฆานวิญญาณขึ้น, การประจวบพร้อม (แห่งจมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ ) ทั้ง 3 อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ, เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา, เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัยลิ้นด้วย รสด้วย จึงเกิดชิวหาวิญญาณขึ้น, การประจวบพร้อม (แห่งลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ) ทั้ง 3 อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ, เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา, เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์.
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัยกายด้วย โผฏฐัพพะด้วย จึงเกิดกายวิญญาณขึ้น, การประจวบพร้อม (แห่งกาย+โผฏฐัพพะ+กายวิญญาณ) ทั้ง 3 อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ, เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา, เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัยใจด้วย ธรรมารมณ์ด้วย จึงเกิดมโนวิญญาณขึ้น, การประจวบพร้อม (แห่งใจ+ธรรมารมณ์+มโนวิญญาณ) ทั้ง 3 อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ, เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา, เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; นี้ คือ การขึ้นแห่งทุกข์.
ภิกษุ ท.! นี้แล คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์.
- สฬา. สํ. 18/106/154.