ไปยังหน้า : |
"ขาแตพระองคผูเจริญ ! คนกลาวกันวา 'สัตว สัตว' ดังนี้, เขากลาวกันวา 'สัตว' เชนนี้ มีความหมายเพียงไร ? พระเจาขา !"
ราธะ ! ฉันทะ (ความพอใจ) ราคะ (ความกําหนัด) นันทิ (ความเพลิน) ตัณหา (ความทะยานอยาก) ใด ๆ มีอยูในรูป, สัตวยอมเกี่ยวของ ยอมติดในรูปนั้น ดวยฉันทราคะเปนตนนั้น เพราะฉะนั้น สัตวนั้น จึงถูกเรียกวา "สัตว (ผูของติด)" ดังนี้ ;
ราธะ ! ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหาใด ๆ มีอยูในเวทนา, สัตวยอมเกี่ยวของ ยอมติดในเวทนานั้น ดวยฉันทราคะเปนตนนั้น เพราะฉะนั้นสัตวนั้น จึงถูกเรียกวา "สัตว" ดังนี้ ;
ราธะ ! ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ใด ๆ มีอยูในสัญญา, สัตวยอมเกี่ยวของ ยอมติดในสัญญานั้น ดวยฉันทราคะเปนตนนั้น เพราะฉะนั้นสัตวนั้น จึงถูกเรียกวา "สัตว" ดังนี้ ;
ราธะ ! ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ใด ๆ มีอยูในสังขารทั้งหลาย, สัตวยอมเกี่ยวของ ยอมติดในสังขารทั้งหลายเหลานั้น ดวยฉันทราคะเปนตนนั้นเพราะฉะนั้น สัตวนั้น จึงถูกเรียกวา "สัตว" ดังนี้ แล.;
ราธะ ! ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ใด ๆ มีอยูในวิญญาณ, สัตวยอมเกี่ยวของ ยอมติดในวิญญาณนั้น ดวยฉันทราคะเปนตนนั้น เพราะฉะนั้นสัตวนั้น จึงถูกเรียกวา "สัตว" ดังนี้ แล.
- ขนฺธ. สํ. 17/232/367.