ไปยังหน้า : |
กัสสปะ ! เมื่อ บุคคลมีความสําคัญ มั่นหมายมาแตตน วา "ผู้นั้นกระทําผู้นั้นเสวย (ผล)" ดังนี้เสียแลว เขามีวาทะ (คือ ลัทธิยืนยันอยู่) ว่า "ความทุกขเปนสิ่งที่บุคคลกระทําเอง" ดังนี้ : นั้น ยอมแลนไปสู่ (คลองแหง) สัสสตะ (ทิฏฐิ ที่ถือวาเที่ยง). กัสสปะ! เมื่อ บุคคลถูกเวทนากระทบใหมีความสําคัญ มั่นหมายว่า "ผู้อื่นกระทํา ผู้อื่นเสวย (ผล)" ดังนี้เสียแลว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู) วา "ความทุกข เปนสิ่งที่บุคคลอื่นกระทําให" ดังนี้ : นั่นยอมแลนไปสู (คลองแหง) อุจเฉทะ (ทิฏฐิที่ถือวาขาดสูญ).
กัสสะปะ! ตถาคต ยอม แสดงธรรมโดยสายกลาง ไมเขาไปหาสวนสุดทั้งสองนั้น คือ ตถาคตยอมแสดงดังนี้วา "เพราะมีอวิชชาเปนปจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย; เพราะมีสังขารเปน ปจจัย จึงมีวิญญาณ : ....ฯลฯ....ฯลฯ….ฯลฯ.... เพราะมีชาติเปนปจจัย ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถวน : ความเกิดขึ้นพรอมแหงกองทุกขทั้งสิ้นนี้ ยอมมีดวยอาการอยางนี้.
เพราะความจางคลายดับไปโดยไมเหลือแหงอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแหงสังขาร; เพราะมีความดับแหงสังขาร จึงมีความดับแหงวิญญาณ ; .... ฯลฯ.... ฯลฯ....ฯลฯ....เพราะมีความดับแหงชาตินั ่นแล , ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแหงกองทุกขทั้งสิ้นนี้ ยอมมีดวยอาการอยางนี้." ดังนี้.
- นิทาน. สํ. 16/24/50.
(พุทธศาสนามิไดถือ วาจิตเปนบุคคล กระแสการปรุงแตงทางจิตเปนไปไดเองตามธรรมชาติผลที่เกิดขึ้นเปนความทุกขจึงมิใชการกระทําของบุคคลใด ; ดังนั้น จึงมิใชการกระทําของบุคคลผูรูสึกเปน ทุกข หรือการกระทําของบุคคลอื่นใดที่ทำใหบุคคลอื่นเปน ทุกข. นี้เปนหลักสําคัญของพุทธศาสนาที่สอนเรื่องอนัตตา ไมมีสัตวบุคคลที่เปนผูกระทําหรือถูกกระทํา มีแตกระแสแหงอิทัปปจจยตาซึ่งจิต รูสึกไดเทานั้น ; เปนเรื่องสําคัญ ที่สุดในพุทธศาสนา ที่จะตองศึกษาใหเขาใจถึงที่สุด).
อุปวาณะ ! เรากลาววา ความทุกขเปนสิ่งที่อาศัยปจจัยเกิดขึ้น (ปฏิจจสมุปปนนธรรม ). ทุกขนั้น อาศัยปจจัยอะไรเกิดขึ้นเลา? อุปวาณะ ! ทุกขอาศัยปจจัยคือผัสสะเกิดขึ้น. ....
ทุกขที่สมณพราหมณพวกหนึ่งบัญญัติวา ตนทําเอง ก็เปนทุกขที่อาศัยผัสสะเกิดขึ้น.
ทุกขที่สมณพราหมณพวกหนึ่งบัญญัติวา ผูอื่นทําให ก็เปนทุกขที่อาศัยผัสสะเกิดขึ้น.
ทุกขที่สมณพราหมณพวกหนึ่งบัญญัติวา ตนทําเองดวยผูอื่นทําใหดวย ก็เปนทุกขที่อาศัยผัสสะเกิดขึ้น.
ทุกขที่สมณพราหมณพวกหนึ่งบัญญัติวา ตนทําเองก็หามิไดผูอื่นทําใหก็หามิได ก็เปนทุกขที่อาศัยผัสสะเกิดขึ้น.
- นิทาน. สํ. 16/49/87.
(คําวา ผัสสะ ในที่นี้ เปนสวนหนึ่งแหงปฏิจจสมุปบาท หรือกระแสแหงการปรุงแตงในทางจิต, มิใชบุคคล ; ดังนั้น จึงกลาววา ทุกขนี้ไมมีใครทําใหเกิดขึ้น เปนเพียงกระแสแหงการปรุงแตงทางจิต).