ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยซึ่งธาตุ 6 ประการ การก้าวลงสู่ครรภ์ ย่อมมี ; เมื่อการก้าวลงสู่ครรภ์ มีอยู่, นามรูป ย่อมมี, เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ ; เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ ; เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา. ภิกษุ ท. ! เราย่อมบัญญัติว่า “นี้ เป็นความทุกข์” ดังนี้ ; ว่า “นี้ เป็นเหตุเกิดของความทุกข์” ดังนี้ ; ว่า “นี้ เป็นความดับไม่เหลือของความทุกข์” ดังนี้ ; ว่า “นี้ เป็นทางให้ถึงความดับไม่เหลือของความทุกข์” ดังนี้ ; แก่สัตว์ผู้สามารถเสวยเวทนา.
(ต่อไปได้ตรัสรายละเอียด ของอริยสัจทั้ง 4 หาดูได้ในภาคนำ แห่งหนังสือเล่มนี้ที่หัวข้อว่า “อริยสัจ 4 ที่ทรงแสดงโดยพิสดาร (นัยที่สอง)” หน้า 138.
-ติก. อํ. 20/227/501.
(ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ข้อเท็จจริงอันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง กล่าวคือ ต้องมีการเสวยเวทนาจริงๆ จึงจะเห็นทุกขอริยสัจที่เกิดจากตัณหาอันเกิดจากเวทนานั้น และความทุกข์ที่ดับไปในขณะที่ตัณหาดับไปในเวทนานั้น ในเมื่อจิตประกอบอยู่ด้วยธัมมสมังคีแห่งอัฏฐังคิกมรรค โดยอัตโนมัติ ; ดังนั้น ถ้าปราศจากเวทนาเสียเพียงอย่างเดียวแล้ว อริยสัจ 4 ก็ยังมิได้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ; ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่า “อริยสัจ ทรงบัญญัติสำหรับสัตว์ที่อาจเสวยเวทนา” ดังนี้ โดยนัยดังที่พระพุทธองค์ตรัสแล้วข้างบน).