สัสสตทิฏฐิก็อยากอยู่ อุจเฉททิฏฐิก็อยากไป สัมมาทิฏฐิก็อยากดับ

ภิกษุ ท. ! เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย อันทิฏฐิ 2 อย่างห่อหุ้มแล้ว บางพวก ทรุดลงอยู่ตรงนั้น บางพวก แล่นเตลิดไป ส่วน พวกที่มีจักษุ ย่อมเห็น (ตามที่เป็นจริง).

ภิกษุ ท. ! เทวดาและมนุษย์พวกที่ทรุดลงอยู่ที่ตรงนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! คือเทวดาและมนุษย์ พวกที่มีภพเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในภพ เพลิดเพลินในภพ, เมื่อบุคคลแสดงธรรมเพื่อความดับไม่เหลือแห่งภพแก่เทวดาและมนุษย์พวกนั้นอยู่, จิตของเขาก็ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ตั้งอยู่ ไม่น้อมไป. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้เรียกว่า พวกที่ทรุดลงอยู่ที่ตรงนั้น.

ภิกษุ ท. ! เทวดาและมนุษย์พวกที่แล่นเตลิดไป เป็นอย่างไรเล่า ? คือพวกที่อึดอัดอยู่ เอือมระอาอยู่ เกลียดอยู่ ด้วยภพ (แต่) เพลิดเพลินยิ่งอยู่กะวิภพ (ภาวะปราศจากภพ) ด้วยคิดว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลายเอ๋ย ! ได้ยินว่า อัตตานี้ ภายหลังแต่การตาย เพราะการทำลายแห่งกาย ย่อมขาดสูญ ย่อมวินาศ มิได้มีอยู่ภายหลังจากการตาย : นั่นแหละ เป็นภาวะสงบระงับ นั่นแหละ เป็นภาวะประณีต นั่นแหละ เป็นภาวะแน่นอนตายตัว” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้เรียกว่า พวกที่แล่นเตลิดไป.

ภิกษุ ท. ! ส่วน พวกที่มีจักษุ ย่อมเห็น (ตามที่เป็นจริง) เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเห็นธรรมที่เกิดแล้วเป็นแล้ว โดยความเป็นสิ่งที่เกิดแล้วเป็นแล้ว ; ครั้นเห็นธรรมที่เกิดแล้วเป็นแล้ว โดยความเป็นสิ่งที่เกิดแล้วเป็นแล้ว แล้วก็เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับไม่เหลือ แห่งธรรมที่เกิดแล้วเป็นแล้ว. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล พวกที่มีจักษุ ย่อมเห็น (ตามที่เป็นจริง).

- อิติวุ. ขุ. ๒๕/๒๖๓/๒๒๗.

(โดยพระบาลีนี้ ทำให้เกิดความเข้าใจว่า พวกที่ทรุดลงอยู่ตรงนั้น คือพวก สัสสตทิฏฐิ, พวกที่แล่นเตลิดเลยไปนั้น คือพวก อุจเฉททิฏฐิ, ส่วนพวกที่เห็นตามที่เป็นจริง คือพวก สัมมาทิฏฐิ ; ต่างกันอยู่ดังนี้เป็นสามพวก ทั้งที่มีมูลมาจากเหตุอย่างเดียวกัน คือมีทิฏฐิสองอย่างห่อหุ้มแล้วด้วยกัน).


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

หนังสือที่เกี่ยวข้อง