ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! ชาวสวนผักมิไดปลูกผักดวยคิดวา "เนื้อในปาทั้งหลายจะไดกินผักที่เราปลูกนี้แลว จะไดมีอายุยืน รูปรางสวยงาม มีชีวิตอยูไดยาวนาน" ดังนี้; แตไดคิดดังนี้วา "เนื้อในปาทั้งหลายจะเขามาสูสวนผักอันเราปลูกแลวกินอยูอยางลืมตัว ครั้นเขามากินอยูอยางลืมตัว จักถึงซึ่งความเลินเลอ ครั้นเลินเลออยูจักถึงซึ่งความประมาท ครั้นประมาทแลวจักเปนสัตวที่เราพึงกระทําไดตามความพอใจในสวนผักนั้น" ดังนี้.
ภิกษุ ท.! บรรดาเนื้อทั้งหลาย ฝูงเนื้อพวกที่หนึ่งไดเขาไปสูสวนผัก ที่ชาวสวนผักปลูกไว กินอยูอยางลืมตัว เมื่อเขาไปกินอยู อยางลืมตัวก็ถึงซึ่งความเลินเลอ ครั้นเลินเลอแลวก็ถึงซึ่งความประมาท ครั้นประมาทแลวก็เปนสัตวที่เจาของสวนผักพึงกระทําไดตามความพอใจในสวนผักนั้น. ภิกษุ ท.! ดวยอาการอยางนี้แล ฝูงเนื้อพวกที่หนึ่งเหลานั้นก็ไมพนไปจากกํามือแหงเจาของสวนผัก.
(พระผูมีพระภาคเจา ไดทรงยกเอาสมณพราหมณจําพวกที่หนึ่งมาเปรียบกันกับฝูงเนื้อจําพวกที่หนึ่ง ดังตอไปนี้ : -
ภิกษุ ท.! บรรดาสมณพราหมณทั้งหลาย สมณพราหมณพวกที่หนึ่ง ได เขาไปสูโลกามิส เหลาโนน ซึ่งเปนเหมือนกับสวนผักอันมาปลูกไว บริโภคอยูอยางลืมตัว ครั้นเขาไปบริโภคอยูอยางลืมตัวก็ถึงซึ่งความมัวเมาครั้นมัวเมาอยูก็ถึงซึ่งความประมาท ครั้นประมาทอยูก็เปนผูที่มารพึงกระทําไดตามความพอใจ ในโลกามิสซึ่งเปนเหมือนกับสวนผักแหงมารนั้น. ภิกษุ ท.! ดวยอาการ อยางนี้แลสมณพราหมณพวกที่หนึ่งนี้ จึงไมพนไปจากอิทธานุภาพแหงมาร. ภิกษุ ท.! เรากลาวสมณพราหมณพวกที่หนึ่งนี้ วามีอุปมาเหมือนฝูงเนื้อพวกที่หนึ่งนั้น, ฉันใดก็ฉันนั้น.
ภิกษุ ท. ! อุปมานี้มีเพื่อใหรูเนื้อความนั้น : คําวา "สวนผัก" นั้น เปนชื่อแหงกามคุณทั้งหา. คําวา "เจาของสวนผัก" นั้น ปนชื่อของมารผูมีบาป. คําวา "พวกพองของเจาของสวนผัก" นั้น เปนชื่อของบริษัทแหงมาร. คําวา "ฝูงเนื้อ" นั้น เปนชื่อของสมณพราหมณทั้งหลาย. (คําไขอุปมานี้ ตรัสไวตอนกลางของพระสูตรที่ตรัสเรื่องเนื้อพวกที่สี่จบลง ในที่นี้ไดยกมา ไวตอนตนเชนนี้ เพื่อสะดวกแกการศึกษายิ่งขึ้น).