ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! รูป เปนอนัตตา, บุคคลพึงเห็นรูปนั้น ดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้ว่า "นั่น ไมใชของเรา, นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้;
ภิกษุ ท.! เวทนา เปนอนัตตา, บุคคลพึงเห็นเวทนานั้น ดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้ว่า "นั่น ไมใชของเรา, นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้ ;
ภิกษุ ท.! สัญญา เปนอนัตตา, บุคคล พึงเห็นสัญญานั้น ดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้่ว่า "นั่น ไมใชของเรา, นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้ ;
ภิกษุ ท.! สังขารทั้งหลาย เปนอนัตตา, บุคคลพึงเห็นสังขารทั้งหลายเหลานั้นดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้ วา "นั่น ไมใชของเรา. นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้ ;
ภิกษุ ท.! วิญญาณ เปนอนัตตา, บุคคลพึงเห็นวิญญาณนั้นดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้ วา "นั่น ไมใชของเรา, นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้แล.
- ขนฺธ สํ. 17/28/44.
ภิกษุ ท .! รูป เปนอนัตตา. ภิกษุ ท .! ถารูปจักเปน อัตตาแลวไซร รูปนี้ ก็ไมพึงเปนไปเพื่ออาพาธ (ความถูกเบียดเบียนดวยโรคเปนตน); อนึ่ง สัตว จะพึงไดในรูปตามปรารถนาวา 'รูปของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, รูปของเรา อยาไดเปนอยางนั้นเลย' ดังนี้. ภิกษุ ท.! แตเพราะเหตุที่ รูปเปนอนัตตา รูป จึงเปนไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตวยอมไมไดในรูปตามปรารถนาวา 'รูปของเราจงเปนอยางนี้เถิด. รูปของเรา อยาไดเปนอยางนั้นเลย' ดังนี้.
ภิกษุ ท .! เวทนา เปนอนัตตา. ภิกษุ ท .! ถาเวทนา จักเปนอัตตาแลวไซร เวทนานี้ ก็ไมพึงเปนเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตวจะพึงไดในเวทนาตามปรารถนาวา 'เวทนาของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, เวทนาของเราอยาไดเปนอยางนั้นเลย ดังนี้. ภิกษุ ท.! แตเพราะเหตุที่ เวทนา เปนอนัตตาเวทนา จึงเปนเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว ยอมไมไดในเวทนาตามปรารถนาวา 'เวทนาของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, เวทนาของเรา อยาไดเปนอยางนั้นเลย' ดังนี้.
ภิกษุ ท.! สัญญา เปนอนัตตา. ภิกษุ ท.! ถาสัญญา จักเปนอัตตาแลวไซร สัญญานี้ ก็ไมพึงเปนไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว จะพึงไดในสัญญาตามปรารถนาวา 'สัญญาของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, สัญญาของเราอยาไดเปนอยางนั้นเลย' ดังนี้. ภิกษุ ท.! แตเพราะเหตุที่ สัญญา เปนอนัตา สัญญา จึงเปนไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตวยอมไมไดในสัญญาตามปรารถนาวา 'สัญญาของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, สัญญาของเรา อยาไดเปนอยางนั้นเลย' ดังนี้.
ภิกษุ ท .! สังขารทั้งหลาย เปนอนัตตา. ภิกษุ ท .! ถาสังขารทั้งหลาย จักเปนอัตตาแลวไซร สังขารทั้งหลายเหลานี้ ก็ไมพึงเปนไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว จะพึงไดในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาวา 'สังขารทั้งหลายของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, สังขารทั้งหลายของเรา อยาไดเปนอยางนั้นเลย 'ดังนี้. ภิกษุ ท.! แตเพราะเหตุที่สังขารทั้งหลายเปนอนัตตา สังขารทั้งหลายจึงเปนไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว ยอมไมไดในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาวา'สังขารทั้งหลายของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, สังขารทั้งหลายของเรา อยาไดเปนอยางนั้นเลย' ดังนี้.
ภิกษุ ท.! วิญญาณ เปนอนัตตา. ภิกษุ ท.! ถาวิญญาณ จักเปนอัตตาแลวไซร วิญญาณนี้ก็ไมพึงเปนไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว จะพึงไดในวิญญาณตามปรารถนาวา 'วิญญาณของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, วิญญาณของเรา อยาไดเปนอยางนั้นเลย' ดังนี้ ภิกษุ ท.! แตเพราะเหตุที่ วิญญาณเป็นอนัตตา วิญญาณจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว ยอมไมไดในวิญญาณตามปรารถนาวา 'วิญญาณของเรา จงเปนอยางนี้เถิด, วิญญาณของเรา อยาไดเปนอยางนั้นเลย' ดังนี้.....
ภิกษุ ท .! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, รูป ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยู จะเปนอดีตอนาคตหรือปจจุบันก็ตาม เปนภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกลก็ตาม, รูปทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้วา 'นั่นไมใชของเรา. นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา' ดังนี้.
ภิกษุ ท.! เวทนา ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยูจะเปนอดีตอนาคตหรือปจจุบันก็ตาม เปนภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกลก็ตาม, เวทนาทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้วา 'นั่น ไมใชของเรา, นั่นไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา' ดังนี้.
ภิกษุ ท! สัญญา ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยูจะเปนอดีตอนาคตหรือปจจุบันก็ตาม เปนภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกลก็ตาม, สัญญาทั้งหลายทั้งปวงเหลานั้น อันใครๆ พึงเห็นดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้วา 'นั่น ไมใชของเรา, นั่นไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา' ดังนี้.
ภิกษุ ท! สังขารทั้งหลาย ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยูจะเปนอดีตอนาคตหรือปจจุบันก็ตาม เปนภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตามเลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกลก็ตาม, สังขารทั้งหลายทั้งปวงเหลานั้น อันใคร ๆ พึงเห็นดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้วา 'นั่น ไมใชของเรา, นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา' ดังนี้.
ภิกษุ ท.! วิญญาณ ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยู ะเปนอดีตอนาคตหรือปจจุบันก็ตาม เปนภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกลก็ตาม, วิญญาณทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้วา 'นั่น ไมใชของเรา, นั่นไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา' ดังนี้ แล.
- ขนฺธ. สํ 17/82-84/127-129.
ภิกษุ ท.! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, สิ่งใดมิใชของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย, สิ่งนั้น อันพวกเธอละไดแลว จักเปนไปเพื่อประโยชนสุขแกพวกเธอเอง ตลอดกาลนาน . ภิกษุ ท .! ก็สิ่งใดเลา มิใชของพวกเธอ ?
ภิกษุ ท.! รูป มิใชของพวกเธอ, พวกเธอจงละรูปนั้นเสีย; รูปนั้น อันพวกเธอละไดแลว จักเปนไปเพื่อประโยชนสุขแกพวกเธอเอง ตลอดกาลนาน
ภิกษุ ท.! เวทนา มิใชของพวกเธอ, พวกเธอจงละเวทนานั้นเสีย; เวทนานั้น อันพวกเธอละไดแลว จักเปนไปเพื่อประโยชนสุขแกพวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
ภิกษุ ท.! สัญญา มิใชของพวกเธอ, พวกเธอจงละสัญญานั้นเสีย; สัญญานั้น อันพวกเธอละไดแลว จักเปนไปเพื่อประโยชนสุขแกพวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
ภิกษุ ท.! สังขารทั้งหลาย มิใชของพวกเธอ, พวกเธอจงละสังขารทั้งหลายเหลานั้นเสีย; สังขารทั้งหลายเหลานั้น อันพวกเธอละไดแลว จักเปนไปเพื่อประโยชนสุขแกพวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
ภิกษุ ท.! วิญญาณ มิใชของพวกเธอ, พวกเธอจงละวิญญาณนั้นเสีย; วิญญาณนั้น อันพวกเธอละไดแลว จักเปนไปเพื่อประโยนสุขแกพวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
ภิกษุ ท.! พวกเธอจะสําคัญความขอนี้วาอยางไร ? คือขอที่หญาไม กิ่งไมและใบไม ใด ๆ มีอยูในเชตวันนี้, เมื่อคนเขาขนเอามันไปก็ตามเผาเสียก็ตาม หรือกระทําตามความตองการอยางใดอยางหนึ่งก็ตาม; พวกเธอเคยเกิดความคิดอยางนี้บางหรือไม วา "คนเขาขนเอาเราไปบาง เขาเผาเราบางเขาทําแกเราตามความปรารถนาของเขาบาง" ดังนี้ ?
"ขอนั้น หามิได พระเจาขา !" ขอนั้น เพราะเหตุไรเลา ? "เพราะเหตุวานั่น หาไดเปนตัวตน หรือของเนื่องดวยตัวตน ของขาพระองคไม พระเจาขา !"
ภิกษุ ท .! ฉันใดก็ฉันนั้น , คือสิ่งใด มิใชของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย; สิ่งนั้น อันพวกเธอละไดแลว จักเปนไปเพื่อประโยชนสุขแกพวกเธอเอง ตลอดกาลนาน แล.
- มู. ม. 12/279/287