ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! เปรียบเหมือนแมน้ำ ซึ่งมีกําเนิดแตภูเขา ไหลไปทางต่ำสิ้นระยะไกล มีกระแสเชี่ยวจัด. ถาหากหญากาสะก็ตาม หญากุสะก็ตาม หญาปพพชะก็ตาม หญาวีรณะก็ตาม หรือตนไมก็ตาม เกิดอยูที่ฝงทั้งสองของแมน้ำนั้นไซร, หญาหรือตนไมเหลานั้น ก็จะถึงยอยลงปกฝงทั้งสองของแมน้ำนั้น. บุรุษผูหนึ่ง ถูกกระแสแหงแมน้ำนั้นพัฒนา ถาจะจับหญากาสะก็ตาม หญากุสะก็ตาม หญาปพพชะก็ตาม หญาวีรณะก็ตาม หรือตนไมก็ตาม สิ่งเหลานั้นก็จะพึงขาดหลุดไป (เพราะกระแสเชี่ยวจัดของแมน้ํา). บุ รุษผูนั้นยอมถึงการพินาศเพราะการทําเชนนั้น., อุปมานี้ฉันใด;
ภิกษุ ท .! อุปไมยก็ฉัน นั้น คือ บุถุชน ผูไมไดยินไดฟง ไมไดเห็นเหลาพระอริยเจา ไมฉลาดในธรรมของพระอริยเจา ไมถูกแนะนําในธรรมของพระอริยเจา, ไมไดเห็นเหลาสัตบุรุษ ไมฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไมถูกแนะนําในธรรมของสัตบุรุษ ยอม ตามเห็นพรอม (คือเห็นดิ่งอยูเปนประจํา) ซึ่งรูป โดยความเปนตน หรือตามเห็นพรอม ซึ่งตน วามีรูป หรือตามเห็นพรอมซึ่งรูป ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพรอม ซึ่งตน วามีอยูในรูป, รูปนั้นยอมแตกสลายแกเขา เขายอมถึงการพินาศ เพราะขอนั้นเปนเหตุ บาง ;
บุถุชนนั้น ยอม ตามเห็นพรอม ซึ่งเวทนา โดยความเปนคน หรือตามเห็นพรอม ซึ่งตน วามีเวทนา หรือตามเห็นพรอม ซึ่งเวทนา วามีอยูในตน หรือตามเห็นพรอม ซึ่งตน วามีอยูในเวทนา, เวทนานั้นยอมแตกสลายแกเขา เขายอมถึงการพินาศ เพราะขอนั้นเปนเหตุ บาง;
บุถุชนนั้น ยอม ตามเห็นพรอม ซึ่งสัญญา โดยความเปนตน หรือตามเห็นพรอม ซึ่งตน วามีสัญญา หรือตามเห็นพรอม ซึ่งสัญญา วามีอยูในตน หรือตามเห็นพรอม ซึ่งตน วามีอยูในสัญญา, สัญญานั้นยอมแตกสลายแกเขา, เขายอมถึงการพินาศ เพราะขอนั้นเปนเหตุ บาง;
บุถุชนนั้น ยอม ตามเห็นพรอม ซึ่งสังขาร ทั้งหลาย โดยความเปนตน หรือตามเห็นพรอมซึ่งตน วามีสังขาร หรือตามเห็นพรอม ซึ่งสังขารทั้งหลาย วามีอยูในตน หรือตามเห็นพรอม ซึ่งตนวามีอยูในสังขารทั้งหลาย, สังขารทั้งหลายเหลานั้น ยอมแตกสลายแกเขา เขายอมถึงการพินาศ เพราะขอนั้นเปนเหตุ บาง;
บุถุชนนั้น ยอม ตามเห็นพรอม ซึ่งวิญญาณ โดยความเปนตน หรือตามเห็นพรอม ซึ่งตน วามีวิญญาณ หรือตามเห็นพรอมซึ่งวิญญาณ วามีอยูในตน หรือตามเห็นพรอมซึ่งตน วามีอยูในวิญญาณ, วิญญาณนั้น ยอมแตกสลายแกเขา เขายอมถึงการพินาศ เพราะขอนั้นเปนเหตุ แล.
- ขนฺธ. สํ.17/168/237.