ไปยังหน้า : |
มหาราช ! ภิกษุนั้น (1) ประกอบแล้วด้วย ศีลขันธ์อันเป็นอริยะ นี้ด้วย (2) ประกอบแล้วด้วย อินทรียสังวรอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (3) ประกอบแล้วด้วย สติสัมปชัญญะอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (4) ประกอบแล้วด้วย สันโดษอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (4) เสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง. เธอนั้น ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ (ขัดสมาธิ) ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า, เธอละอภิชฌาในโลก มีจิตปราศจากอภิชฌา คอยชำระจิตจากอภิชฌา อยู่; ละพยาบาทเครื่องประทุษร้าย มีจิตปราศจากพยาบาท เป็นผู้กรุณามีจิตหวังความเกื้อกูลในสัตว์ทั้งหลาย คอยชำระจิตจากพยาบาทเครื่องประทุษร้ายอยู่ ; ละถีนมิทธะ มุ่งอยู่แต่ความสว่างในใจ มีจิตปราศจากถีนมิทธะ มีสติมีสัมปชัญญะรู้สึกตัว คอยชำระจิตจากถีนมิทธะ อยู่ ; ละอุทธัจจกุกกุจจะ ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบอยู่ ในภายใน คอยชำระจิตจากอุทธัจจกุกกุจจะ อยู่ ; ละวิจิกิจฉา ข้ามล่วงวิจิจกิจฉาเสียได้ ไม่ต้องกล่าวว่านี่อะไรนี่อย่างไร ในกุศลธรรมทั้งหลาย (เพราะความสงสัย) คอยชำระจิตจากวิจิกิจฉา อยู่.
- สี. ที. ๙/๙๕/๑๒๕.