ไปยังหน้า : |
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ที่เรียกว่า 'มาร มาร' ดังนี้, ด้วยเหตุเพียงเท่าไรเล่า จึงถูกเรียกว่า มาร พระเจ้าข้า !"
ราธะ ! เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณมีอยู่, จะพึงมีมาร, มีผู้ให้ตาย หรือว่าผู้ตาย.
ราธะ ! เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ เธอจงเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ว่า 'เป็นมาร' เห็นว่าเป็น 'ผู้ให้ตาย' เห็นว่า 'ผู้ตาย' เห็นว่า 'เป็นโรค' เห็นว่า 'เป็นหัวฝี' เห็นว่า 'เป็นลูกศร' เห็นว่า 'เป็นทุกข์' เห็นว่า 'เป็นทุกข์ที่เกิดแล้ว' ดังนี้. พวกใดย่อมเห็น รูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณนั้น ด้วยอาการอย่างนี้, พวกนั้น ชื่อว่า ย่อมเห็นโดยชอบ แล.
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! สัมมาทัสสนะ (การเห็นโดยชอบ) มีอะไรเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมายเล่า พระเจ้าข้า !"
ราธะ ! สัมมาทัสสนะ มีนิพพิทา (ความเบื่อหน่าย) เป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย.
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ก็นิพพิทา (ความเบื่อหน่าย) มีอะไรเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมายเล่า พระเจ้าข้า !"
ราธะ ! นิพพิทาแล มีวิราคะ (ความจางคลายไป) เป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย.
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ก็วิราคะ มีอะไรเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมายเล่า พระเจ้าข้า!"
ราธะ ! วิราคะแล มีวิมุติ (ความหลุดพ้น) เป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ก็วิมุติ มีอะไรเป็นประโยชน์ ที่มุ่งหมายเล่า พระเจ้าข้า ?"
ราธะ ! วิมุติแล มีนิพพานเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย.
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ก็นิพพาน มีอะไรเป็นประโยชน์ ที่มุ่งหมายเล่า พระเจ้าข้า?"
ราธะ ! เขาได้ถามเลยปัญหาเสียแล้ว, เธอไม่อาจจะจับฉวยเอาที่สุดของปัญหาได้.
ราธะ ! ด้วยว่า พรหมจรรย์ ที่ประพฤติกันอยู่นี้แล ย่อมหยั่งลงสู่นิพพาน มีนิพพานเป็นที่สุดท้าย.
- ขนฺธ. สํ. 17/231/366.