ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! ในกาลยืดยาวนานฝายอดีต, สมณะหรือพราหมณเหลาใด ประกาศธรรมที่ตนรูดียิ่งแลวตามเปนจริง สมณะหรือพราหมณเหลานั้นทุกทาน ประกาศแลว ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อยาง, ในกาลยืดยาวนานฝายอนาคต, สมณะหรือพราหมณเหลาใด จักประกาศธรรมที่ตนรูดียิ่งแลวตามเปนจริง สมณะหรือพราหมณเหลานั้นทุกทาน จักประกาศซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อยาง. ในกาลเปนปจจุบันนี้, สมณะหรือพราหมณเหลาใด ประกาศอยูซึ่งธรรมที่ตนรูดียิ่งแลวตามเปนจริง สมณะหรือพราหมณเหลานั้นทุกทานยอมประกาศอยูซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อยาง. ความจริงอันประเสริฐสี่อยางนั้นเหลาไหนเลา ? สี่อยางคือความจริงอันประเสริฐ คือ ทุกข, เหตุใหเกิดทุกข, ความดับไมเหลือของทุกข, และทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือของทุกข.
ภิิกษุ ท.! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึง ทําความเพียรเพื่อใหรูตามเปนจริงวา "นี้เปนทุกข, นี้เปนเหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข, นี้เปนความดับไมเหลือแหงทุกข, นี้เปนทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข," ดังนี้เถิด.
- มหาวาร. สํ. 19/523/1659.