ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท. ! สัมมาอาชีวะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เรากล่าว แม้สัมมาอาชีวะ ว่ามีโดยส่วนสอง คือ สัมมาอาชีวะที่ยังเป็นไปกับด้วยอาสวะ (สาสว) เป็นส่วนแห่งบุญ (ปุญฺญภาคิย) มีอุปธิเป็นวิบาก (อุปธิเวปกฺก) ก็มีอยู่ สัมมาอาชีวะ อันเป็นอริยะ (อริย) ไม่มีอาสวะ (อนาสว) เป็นโลกุตตระ (โลกุตฺตร) ; เป็นองค์แห่งมรรค (มงฺคงฺค) ก็มีอยู่.
ภิกษุ ท. ! สัมมาอาชีวะที่ยังเป็นไปกับด้วยอาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ มีอุปธิเป็นวิบาก นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ อริยสาวกละเสียซึ่งการเลี้ยงชีวิตที่ผิด สำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ. ภิกษุ ท. ! นี้คือ สัมมาอาชีวะที่ยังเป็นไปกับด้วยอาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ มีอุปธิเป็นวิบาก.
ภิกษุ ท. ! สัมมาอาชีวะอันเป็นอริยะ ไม่มีอาสวะ เป็นโลกุตตระ เป็นองค์แห่งมรรค นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? คือ การงด การเว้น การงดเว้น เจตนาเป็นเครื่องเว้น จากการเลี้ยงชีวิตที่ผิด (มิจฺฉาอาชีว)18.1 link ของผู้มีอริยจิต ของผู้มีอนาสวจิต ของผู้เป็นอริยมังคสมังคี ผู้เจริญอยู่ซึ่งอริยมรรค. ภิกษุ ท. ! นี้คือ สัมมาอาชีวะอันเป็นอริยะ ไม่มีอาสวะ เป็นโลกุตตระ เป็นองค์แห่งมรรค.
- อุปริ. ม. ๑๔/๑๘๖/๒๗๖ - ๒๗๘.