ไปยังหน้า : |
"ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ! น่าอัศจรรย์ จริงไม่เคยมีมาแต่ก่อน คือข้อที่พระสมณโคดมได้กล่าวคำนี้ว่า 'ลาภทั้งหลายมีความไม่มีโรคเป็นอย่างยิ่ง, นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง' ดังนี้. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! ข้าพเจ้าก็ได้เคยฟังคำกล่าวนี้ ของปริพพาชกผู้เป็นอาจารย์แห่งอาจารย์ในกาลก่อน กล่าวอยู่ว่า 'ลาภทั้งหลาย มีความไม่มีโรคเป็นอย่างยิ่ง, นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง' ดังนี้ด้วยเหมือนกัน. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! ข้อนี้ช่างตรงกันแท้".
มาคัณฑิยะ! ข้อนี้ท่านฟังมาแต่ปริพพาชกผู้เป็นอาจารย์แห่งอาจารย์ในกาลก่อน ที่กล่าวอยู่ว่า "ลาภทั้งหลาย มีความไม่มีโรคเป็นอย่างยิ่ง, นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง" ดังนี้นั้น อะไรเล่าคือความไม่มีโรคนั้น อะไรเล่าคือนิพพานนั้น ?
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว มาคัณฑิยปริพพาชก ได้ลูบร่างกายของตนด้วยฝ่ามือ แล้วร้องขึ้นว่า "ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ! นี่ยังไงล่ะ ความไม่มีโรค ! นี่ยังไงล่ะ นิพพาน ! พระโคดมผู้เจริญ ! เวลานี้ ข้าพเจ้าเป็นสุข ไม่มีโรค ไม่มีอาพาธไร ๆ".
มาคัณฑิยะ ! ข้อนี้เปรียบเหมือนบุรุษตาบอดมาแต่กำเนิด เขาไม่อาจเป็นรูปดำ ขาว รูปเขียว รูปเหลือง รูปแดง รูปสีส้ม ไม่อาจเห็นที่ขรุขระไม่อาจเห็นดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์. เขาได้ยินคนตาดีกล่าวอยู่ว่า "ท่านผู้เจริญ! ผ้าขาวผ่อง สะอาด ไม่มีมลทิน งามนักหนอ". บุรุษตาบอดนั้นก็เที่ยวแสวงหาผ้าขาว. บุรุษคนหนึ่งลวงเขาด้วยผ้าเก่าเปื้อนเขม่าน้ำมันว่า "บุรุษผู้เจริญ ! นี้ ผ้าขาวผ่อง สะอาด ไม่มีมลทิน งามนัก สำหรับท่าน". บุรุษตาบอดนั้น รับผ้านั้นไปห่ม แล้วเที่ยวประกาศความพอใจของตนว่า "ท่านผู้เจริญทั้งหลายเอ๋ย! นี่ ผ้าขาวผ่อง สะอาด ไม่มีมลทิน งามนักหนอ" ดังนี้. มาคัณทิยะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : บุรุษตาบอดแต่กำเนิดนั้นรู้อยู่เห็นอยู่ แล้วรับเอาผ้าเก่าเปื้อนเขม่าน้ำมันไปห่ม แล้วเที่ยวคุยอวดอยู่ว่า "ท่านผู้เจริญทั้งหลายเอ๋ย ! นี่ ผ้าขาวผ่อง สะอาด ไม่มีมลทิน งามนักหนอ" ดังนี้หรือ ? หรือว่าเขากล่าวเช่นนั้นเพราะเชื่อคนตาดีที่ลวงเขา ?
"ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! เขากล่าวเช่นนั้น เพราะเชื่อคนตาดีที่ลวงเขาเท่านั้น"
มาคัณฑิยะ ! ฉันใดก็ฉันนั้น ที่ปริพพาชกเดียรถีย์เหล่าอื่นเป็นคนบอดไม่มีจักษุ ไม่รู้จักความไม่มีโรค ไม่เห็นนิพพาน ก็ยังมากล่าวคำนี้ว่า "ลาภทั้งหลาย มีความไม่มีโรคเป็นอย่างยิ่ง, นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง" ดังนี้.
มาคัณฑิยะ ! คาถานี้ เป็นคาถาที่พระหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวกันแล้วในกาลก่อน ว่า :-
"จากทั้งหลาย มีความไม่มีโรคเป็นอย่างยิ่ง, นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง, อัฎฐังคิกมรรค เป็นทางอันเกษมกว่าทางทั้งหลาย ซึ่งเป็นเครื่องให้ถึงอมตะ"
ดังนี้นั้น บัดนี้ ได้มากลายเป็นคาถาของบุถุชนกล่าวไปเสียแล้ว. มาคัณฑิยะ ! กายนี้นะหรือ เป็นโรค เป็นหัวผี เป็นลูกศร เป็นความลำบาก เป็นอาพาธ, ท่านก็มากล่าวมันว่าเป็นความไม่มีโรค เป็นนิพพาน . มาคัณฑิยะเอ๋ย ! อริยจักษุสำหรับจะรู้จักความไม่มีโรค จะเห็นนิพพาน ของท่านไม่มี.
- ม. ม. 13/281-283/287-288.
( ปริพพาชกผู้นี้ สำคัญตัวเขาเองว่า เป็นความไม่มีโรคเป็นนิพพาน ดังนั้นจึงต้องเรียกว่า นิพพานของคนตาบอด, เช่นเดียวกับคนตาบอดในอุปมานี้ สำคัญผ้าสกปรกว่าเป็นผ้าขาว ).