ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.; การก่อขึ้นแห่งโลก (ปัญจุปาทานขันธ์) เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัย ตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น; การประจวบพร้อม (แห่งตา+รูป+จักขุวิญญาณ ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมี เวทนา; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณ ะ โศก ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก.
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัย หู ด้วย เสียงด้วย จึงเกิดโสตวิญญาณขึ้น; การประจวบพร้อม (แห่งหู+เสียง+โสตวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โศก ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก.
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัย จมูก ด้วยกลิ่นด้วย จึงเกิดฆานวิญญาณขึ้น; การประจวบพร้อม (แห่งจมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โศก ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก.
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัย ลิ้น ด้วย รสด้วย จึงคงเกิดชิวหาวิญญาณขึ้น; การประจวบพร้อม (แห่งลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โศก ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก.
ภิกษุ ท.! เพราะอาศัย กาย ด้วย โผฏฐัพพะด้วย จึงเกิดกายวิญญาณขึ้น; การประจวบพร้อม(แห่งกาย+โผฏฐัพพะ+กายวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ; เพ ราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โศก ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก.
ภิกษุ ท.; เพราะอาศัย ใจ ด้วย ธรรมารมณ์ด้วย จึงเกิดมโนวิญญาณขึ้น; การประจวบพร้อม (แห่งใจ+ธรรมารมณ์+มโนวิญญาณ) ทั้ง 3 อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดมีเวทนา; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โศก ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก.
ภิกษุ ท.! นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก แล.
- สฬา. สํ. 18/108/156.