ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! ตลอดกาลเพียงใด, เรายังไมไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งอุปาทานขันธทั้งหาเหลานี้ โดยปริวัฏฏสี่ ตรงตามที่เปนจริง; เราก็ยังไมปฏิญญาอยูเพียงนั้นวา เปนผูรูพรอมเฉพาะแลว ซึ่งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในโลกพรอมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก, ในหมูสัตว พรอมทั้งสมณพราหมณพรอมทั้งเทวดาและมนุษย.
ภิกษุ ท.! เมื่อใดแล, เราไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งอุปาทานขันธทั้งหาเหลานี้ โดยปริวัฏฏสี่ ตรงตามที่เปนจริง; เมื่อนั้นแหละ, เราจึงปฏิญญาไดวาเปนผูรูพรอมเฉพาะแลว ซึ่งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในโลก พรอมทั้งเทวโลกมารโลก พรหมโลก, ในหมูสัตว พรอมทั้งสมณพราหมณ พรอมทั้งเทวดาและมนุษย.
ภิกษุ ท.! ปริวัฏฏสี่นั้น เปนอยางไรเลา ? ปริวัฎฎสี่นั้นคือ :-
(๑) เราไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่ง รูป, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความกอขึ้นของรูป, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความดับไมเหลือของรูป, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือของรูป.
(๒) เราไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่ง เวทนา, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความกอขึ้นของเวทนา, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความดับไมเหลือของเวทนา, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือของเวทนา.
(๓) เราไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่ง สัญญา, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความกอขึ้นของสัญญา, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความไมเหลือของสัญญา, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือของสัญญา.
(๔) เราไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่ง สังขาร ทั้งหลาย, ไดรูชัดแจงยิ่งแลวซึ่งความกอขึ้นของสังขารทั้งหลาย, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความดับไมเหลือของสังขารทั้งหลาย, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือของสังขารทั้งหลาย.
(๕) เราไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่ง วิญญาณ, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความกอขึ้นของวิญญาณ, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งความดับไมเหลือของวิญญาณ, ไดรูชัดแจงยิ่งแลว ซึ่งทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือของวิญญาณ.
ภิกษุ ท.! เหลานี้แหละ ชื่อวา ปริวัฏฏสี่อยางนั้น.
(ขอความที่ละเอียดยิ่งไปกวานี้ ตลอดถึงผลของการรู จนทําใหเปนเกพลี หาดูไดจากหนังสือปฏิจจ. โอ. หนา.๓๓๘ ตั้งแตคําวา "ดูกอนภิกษุทั้งหลาย ! ก็รูปเปนอยางไรเลา ?"…เปนตนไป จึงถึงหนา ๓๔๒ จบลงที่คําวา… "วัฏฏยอมไมมี เพื่อจะบัญญัติ แกบุคคลเหลานั้น".).
- ขนฺธ. สํ. 17/72-75/112-117.