ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! ผูใด พึงกลาวอยางนี้วา "ขาพเจาไมรูเฉพาะตามเปนจริง ซึ่งอริยสัจคือทุกข ซึ่งอริยสัจคือเหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข ซึ่งอริยสัจคือความดับไมเหลือแหงทุกข ซึ่งอริยสัจคือทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกขแลวขาพเจาก็จักกระทําที่สุดแหงทุกขโดยชอบได" ดังนี้ : ขอนี้ไมเปนฐานะที่จะมีได. ภิกษุ ท.! เปรียบเหมือนผูใดจะพึงกลาวอยางนี้วา "ขาพเจาจักทําหอดวยใบแหงไมสีเสียด หรือใบแหงไมสรละ หรือใบแหงไมมะขามปอม แลวจักใสน้ำหรือน้ำตกจากตนตาล แลวนําไปได" ดังนี้ : ขอนี้ไมเปนฐานะที่จะมีได; ภิกษุ ท.! ฉันใดก็ฉันนั้น ที่ผูใดจะพึงกลาวอยางนี้วา "ขาพเจาไมรูเพราะตามเปนจริง ซึ่งอริยสัจคือทุกข ซึ่งอริยสัจคือเหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข ซึ่งอริยสัจคือความดับไมเหลือแหงทุกข ซึ่งอริยสัจคือทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข แลวขาพเจาก็จักกระทําที่สุดแหงทุกขโดยชอบได" ดังนี้ : ขอนี้ไมเปนฐานะที่จะมีได.
ภิกษุ ท.! สวนผูใดแลพึงกลาวอยางนี้วา "ขาพเจารูเฉพาะตามเปนจริงซึ่งอริยสัจคือทุกข ซึ่งอริยสัจคือเหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข ซึ่งอริยสัจคือความดับไมเหลือแหงทุกขซึ่งอริยสัจคือทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข แลวขาพเจาก็จักกระทําที่สุดแหงทุกขโดยชอบได" ดังนี้ : ขอนี้เปนฐานะที่มีได. ภิกษุ ท.! เปรียบเหมือนผูใดจะพึงกลาวอยางนี้วา "ขาพเจาจักทําหอดวยใบบัว หรือใบปลาสะ หรือใบยางซาย แลวจักใสน้ำ หรือน้ำตกจากตนตาล แลวนําไปได" ดังนี้ : ขอนี้เปนฐานะที่จะมีได; ภิกษุ ท.! ฉันใดก็ฉันนั้น ที่ผูใดจะพึงกลาวอยางนี้วา "ขาพเจารูเฉพาะตามเปนจริงซึ่งอริยสัจคือทุกข ซึ่งอริยสัจคือเหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข ซึ่งอริยจสัจคือความดับไมเหลือแหงทุกข ซึ่งอริยสัจคือทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข แลวขาพเจาก็จักกระทําที่สุดแหงทุกขโดยชอบได" ดังนี้ : ขอนี้เปนฐานะที่มีได.
ภิกษุ ท.! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรมอันเปนเครื่องกระทําใหรูวา "ทุกข เปนอยางนี้, เหตุใหเกิดขึ้นแหงทุกข เปนอยางนี้, ความดับไมเหลือแหงทุกข เปนอยางนี้, ทางดําเนินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข เปนอยางนี้." ดังนี้.
- มหาวาร. สํ. 19/549/1714-1715.