ไปยังหน้า : |
ภิกษุ ท.! เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : ฝุ่นนิดหนึ่งที่เราช้อนขึ้นด้วยปลายเล็บนี้ กับมหาปฐพีนั้น ข้างไหนจะมากกว่ากัน?
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มหาปฐพีนั่นแหละเป็นดินที่มากกว่า. ฝุ่นนิดหนึ่งเท่าที่ทรงช้อนขึ้นด้วยปลายพระนขานี้ เป็นของมีประมาณน้อย. ฝุ่นนั้น เมื่อนำเข้าไปเทียบกับมหาปฐพี ย่อมไม่ถึงซึ่งการคำนวณได้ เปรียบเทียบได้ ไม่เข้าถึงแม้ซึ่งกะละภาค (ส่วนเสี้ยว".
ภิกษุ ท.! อุปมานี้ฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น : สัตว์ที่เกิดกลับมาสู่หมู่มนุษย์ มีน้อย; สัตว์ที่เกิดกลับเป็นอย่างอื่นจากหมู่มนุษย์ มีมากกว่าโดยแท้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า? ภิกษุ ท.! ข้อนั้น เพราะความที่สัตว์เหล่านั้นไม่เห็นอริยสัจทั้งสี่. อริยสัจสี่ อย่างไรเล่า? สี่อย่างคือ อริยสัจคือทุกข์ อริยสัจคือเหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ อริยสัจคือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อริยสัจคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.
ภิกษุ ท.! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรม4อันเป็นเครื่องกระทำให้รู้ว่า " ทุกข์ เป็นอย่างนี้, เหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้",. ดังนี้.
- มหาวาร. สํ. 19/578/1757.
(ในกรณีที่ไม่เห็นอริยสัจนั้น ยังมีผลทําให้ :
สัตว์มาเกิดในมัชฌิมชนบท มีน้อย 19/578/1758.
สัตว์มีปัญญาจักษุ มีน้อย 19/579/1759.
สัตว์ไม่เสพของเมา มีน้อย 19/579/1760.
สัตว์เกิดเป็นสัตว์บก มีน้อย (สัตว์น้ำมาก) 19/579/1761.
สัตว์เอื้อเฟื้อมารดา มีน้อย 19/579/1761.
สัตว์เอื้อเฟื้อบิดา มีน้อย 19/579/1762.
สัตว์เอื้อเฟื้อสมณะ มีน้อย 19/579/1763.
สัตว์เอื้อเฟื้อพราหมณ์ มีน้อย 19/579/1764.
สัตว์อ่อนน้อมถ่อมตน มีน้อย 19/579/1765.
นอกจากนี้พระองค์ยังได้ทรงแสดงภาวะแห่งสัตว์ที่ไม่พึงปรารถนา อีกมากอย่างตามที่เรารู้จักกันอยู่ เช่น สัตว์ที่ไม่จั้งอยู่ในกุศลกรรมบถ เป็นต้น, ผู้รวบรวมเห็นว่ามากเกินความจำเป็น จึงไม่นำมาใส่ไว้ในที่นี้.)